ชื่อเรื่อง BattleShip ก็หมายถึง เรือรบรวมไปถึงยานรบในเรื่องครับ ส่วนชื่อเรื่องภาษาไทยที่ยาวๆ ไม่ต้องไปจำมันหรอก 555+ แต่ที่ผมสนใจ คือเรือรบลำนึงในเรื่อง
สำหรับผม เป็นเรื่องแรกที่ดูแล้วทำใหรู้สึกว่า เรือรบลำใหญ่ๆ เวลาเอามาบู้เต็มที่ มันก็เท่ได้เหมือนกันนะเนี่ย ในเรื่องนี้ นอกจากจะมียานรบของเอเลี่ยนที่เห็นใน Trailer แล้ว ยังมีเรือรบพิฆาต กับเรือรบประจันบาล ของกองทัพเรือออกมาโชว์ความเทพกันให้จุใจ สำหรับคนที่ชอบฉากที่ยิงกันเยอะๆ ยิงกันสนั่นจอ ยิ่งชิบหายมากเท่าไหร่ ยิ่งมันส์
อานุภาพของเรือประจันบาล USS Missouri
การต่อสู้ระหว่างเรือรบกับเรือรบด้วยกัน ในหนังสมัยใหม่ที่ผมเคยดูนั้น ถือว่ามีไม่กี่เรื่องครับ ส่วนมาก จะเน้นการโจมตีจากเครื่องบินขับไล่มากกว่า การยิงกันซึ่งๆหน้าระหว่างเรือรบด้วยกันเอง ทำให้ผมรู้สึกว่าการเอาของใหญ่ๆแบบนี้ออกมาบู้เนื่ย มันเป็นอะไรที่เท่มาก ต้องใช้ความสามารถของผู้บัญาชาการ และลูกเรือ มากเลยทีเดียว พราะถ้าขืนได้กัปตันเรือโง่ๆ มีหวังตายยกลำ
Entry นี้จะขอกล่าวถึง เรือรบประจับบาล USS Missouri สุดคลาสสิค เพราะเรือรบรุ่นใหม่ๆ จะไม่มีปืนกระบอกโตมาตั้งเรียงกันเป็นแผง ให้ดูอลังการแบบนี้แล้ว ในเรื่อง Battleship จะได้เห็นเรือลำนี้ออกมากระหนาบยิงสู้กับยานลบเอเลี่ยนไฮเทค แบบซึ่งๆหน้ากันไปเลย
ข้อมูลของ USS Missouri จาก Wikipedia ครับ
ยูเอสเอส มิสซูรี (BB-63) ("ไมท์ตีโม" หรือ "บิกโม") เป็นเรือประจัญบานชั้นไอโอวา ของกองทัพเรือสหรัฐ และเป็นเรือลำที่สี่ของกองทัพเรือสหรัฐที่ใช้ชื่อรัฐตามรัฐ มิสซูรี มิสซูรี เป็นเรือประจัญบานลำสุดท้ายที่สร้างขึ้นโดยสหรัฐและเป็นที่เซ็นสัญญายอมจำนนของจักรวรรดิญี่ปุ่น ในตอนจบของสงครามโลกครั้งที่สอง
มิสซูรี ถูกสั่งต่อเรือในปี ค.ศ. 1940 และขึ้นระวางประจำการในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 ในสมรภูมิมหาสมุทรแปซิฟิกของสงครามโลกครั้งที่สอง เรือได้เข้าร่วมการรบที่อิโวะจิมะและโอะกินะวะ และล้อมแผ่นดินแม่ญี่ปุ่น และเรือยังเข้าร่วมในสงครามเกาหลีในระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึง 1953 เรือปลดประจำการในปี ค.ศ. 1955 กลายเป็นกองเรือสำรองของกองทัพเรืออเมริกา แต่ได้รับการนำกลับเข้าประจำการและปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกองเรือ 600 และให้การยิงสนับสนุนในระหว่างปฏิบัติการพายุทะเลทรายในเดือนมกราคม / กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991
มิสซูรี ได้รับ 11 ดาวยุทธการจากการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี และ สงครามอ่าวเปอร์เซีย สุดท้ายเรือได้รับการปลดประจำการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1992 แต่ยังคงชื่อไว้กองทัพเรือจนกระทั่งชื่อถูกจำหน่ายออกในเดือนมกราคม ค.ศ. 1995 ในปี ค.ศ. 1998 เรือถูกบริจาคให้กับสมาคมอนุสรณ์ ยูเอสเอส มิสซูรี และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เรือ ที่ท่าเรือเพิร์ลในรัฐฮาวาย
รายละเอียดต่างๆ ของ USS Missouri
ปืนใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 นิ้ว หรือ 410 มม. 50cal Mark.7 เป็นอาวุธโจมตีหลัก 3 แท่นยิง ฐานละ 3 ลำกล้อง รวมเป็นทั้งหมด 9 ลำกล้อง อยู่ที่ด้านหน้าสะพานเดินเรือ 2 กระบอก และ ท้ายเรือ อีก 1 กระบอก สามารถยิงพร้อมกันได้ในแนวขนาบข้าง
ยุทโธปกรณ์:
- ปืนยิงต่อสู้ระยะกลาง ขนาด 130 มม. จำนวน 12 กระบอก ติ้ดตั้งไว้ทั่วลำเรือเพื่อรับการโจมตีรอบด้าน
- ขีปนาวุธ TomaHawk รุ่น BGM-109 จำนวน 32 ลูก โจมตีระยะกลาง ถึงไกล
- ขีปนาวุธ Harpoon รุ่น AGM-84 สำหรับต่อต้านเรือรบ
ลักษณะเฉพาะ:
- จำนวนลูกเรือ 1,851 นาย
ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:
- เรดาห์อากาศ AN/SPS-49
- เรดาห์พื้นน้ำ AN/SPS-67
- เรดาห์ควบคุมการยิงพื้นน้ำ AN/SPQ-9
สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง:
- AN/SLQ-32ระบบลวง
- AN/SLQ-25 Nixie8 × จรวดแตกออกเร็ว Mark 36 SRBOC
เกราะ:
- ด้านข้าง : 12.1 นิ้ว (310 มม.)
- ผนังเรือ : 11.3 นิ้ว (290 มม.)
- เกราะฐานป้อม : 11.6-17.3 นิ้ว (290-440 มม.)
- ป้อมปืน : 19.7 นิ้ว (500 มม.)ดาดฟ้า: 7.5 นิ้ว (190 มม.)
- ขนาด (ระวางขับน้ำ) : 45,000 ตัน
- ความยาว : 270.4 เมตร
- ความกว้าง : 33 เมตร
- กินน้ำลึก : 8.8 เมตร
- ความเร็ว : 33 นอต