เนื่องจากมีน้องๆในเฟสถามมานะครับ ผมเลยขอตอบให้ในนี้เลยเพราะมันยาวจนโพสลงไปในเฟสแล้วอ่านยาก หวังว่าน่าจะได้ให้สาระนิดๆหน่อยๆกับน้องๆบ้างนานๆที ^ ^
การทำเกมในไทยนั้นจริงๆเป็นวงการที่ไม่หวือหวาเหมือนต่างประเทศนะครับ ค่อนข้างเล็กมากเลยเมื่อเทียบกับเมืองนอก แต่ก็มีกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังพยายามกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งการทำเกมถ้าจะทำกันเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมเป็นเรื่องเป็นราวนะครับไม่ใช่อะไรที่ทำคนเดียวแน่นอน ดังนั้นอันดับแรกเราต้องเลือกเลยว่าเราอยากอยู่ส่วนไหนของทีมอยากทำอะไร ซึ่งถ้าเอาแบบเล็กๆง่ายๆบ้านๆเลยนะครับก็มี 1 โปรแกรมเมอ 2 อาร์ทติส 3. นักออกแบบ คือมีกันแค่นี้ก็พอจะทำเกมขำๆกันได้แล้ว แต่จริงๆแล้วในอุตสาหกรรมเกมจริงๆมีหน้าที่มากมายกว่านี้เยอะมากครับ แถมมีเรื่องให้คิดมากมายและมีเรื่องที่น่าปวดหัวอีกเยอะ และตำแหน่งงานในปัจจุบันก็มีมากมายเช่นกันครับ โดยหลักๆแล้วจะใช้ความสามารถเป็นหลักในการแข่งขันเรียกได้ว่าถ้าเรามีความเชียวชาญมีความสามารถหรือมีพอทผลงานดีๆ จะเป็นสิ่งที่ได้เปรียบมาเลยครับและรายได้ก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถเช่นกัน ถำถามคือจะทำยังไงให้เราเป็นคนที่หลายๆองค์กรหลายๆทีมต้องการตัวไม่ได้จะเอามาฆ่าทิ้งแต่เป็นบุคคลที่มีความสามารถ คือต้องสร้างมูลค่าให้ตัวเอง -*- แต่การจะไปถึงจุดนั้นมันก็ต้องเตรียมตัวและลงทุนกับการศึกษาไปไม่น้อยเลยทีเดียวและมันก็ไม่เหมือนกับการอยากเรียนวิศวะหรือเรียนหมอ เพราะพอพูดถึงเกมทีไรมันก็มักจะเกิดภาพเชิงลบในสายตาผู้ใหญ่ผู้ปกครองอยู่ตลอดๆ ถ้าถามว่าตกงานไหมบอกตามตรงเลยว่า แล้วแต่ดวงเอ้ย. แล้วแต่ความสามารถครับ แต่ยากที่จะไม่มีที่ให้ทำเพราะมันเยอะมากจริงๆมันกลายเป็นแรงงานทาสอย่างหนึ่งไปแล้วมั้งตอนนี้ แต่ถ้าถามเรื่องสุขภาพของมนุษย์สายนี้ขอบอกตามตรงว่า อ่อนแอ อ้วน และหน้าดำเพราะอยู่หน้าคอมทั้งวัน 555 ซึ่งมันก็ไม่จริงเสมอไปมันอยู่ที่เจ้าตัวแล้วละเรื่องนี้ *-* ถามเรื่องสภาพจิตใจก็บอกตามตรงที่เห็นๆก็มี โอตาคุ คนบ้า คนพูดภาษามนุษย์ไม่รู้เรื่อง ติสแตกหลุดโลก มึนกับตัวเอง มึนกับคนรอบข้าง และอื่นๆอีกมากมาย แต่แบบปกติก็มีบ้างครับ 555
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาคิดมาก เพราะสำหรับน้องๆที่สนใจและชื่นชอบการทำเกมหรืองานสายนี้สิ่งที่ต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆคือ เราก็ต้องเริ่มจากดูว่าเราถนัดอะไรบ้าง เช่น เราชอบคณิตศาสตร์ไหม ชอบการคิดการคำนวนวิเคราะห์แก้ปัญหาหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะมาทางสายโปรแกรมเมอ น้องจะได้แก้ปัญหาทั้งวัน แล้วเราจะรู้ว่าวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนมาใช้ได้มากมายแค่ไหนทั้งโดยเฉพาะตรีโกนมิติ วันนี้เพิ่งรู้ว่ามันมีประโยชน์มากขนาดไหน ทั้งๆที่ตอนเรียนก็ไม่เห็นมีใครบอกว่ามันใช้ทำอะไร แต่ถ้าใครชอบวาดรูปมีทักษะทางศิลปะก็มาทางอาร์ทติสเป็นมือกราฟิก จะได้ทำของประดับฉากสวยๆ ทำไอเท็มเก๋ๆ ทำตัวละครเท่ๆให้กับเกม โปรแกรมที่เหล่าอาร์ทติสทั้งหลายต้องพัวพันตลอดชีวิตของเขาคือโปรแกรมทำงาน 3d อย่างเช่นที่เห็นทั่วๆไปก็ 3Dmax , Maya ,Softimage หลังๆเริ่มฮิท Zbrush ขอร้องให้เลือกเอาสักอย่างให้เทพไปเลยดีกว่าเพราะมันก็ใช้ได้เหมือนกันยอกเว้น Zbrush อันนี้จะเน้นพวกชอบปั้นชอบแงะชอบแกะของให้มันเน่าๆเละๆลายเยอะๆยิ่งน่าเกลียดยิ่งสวย
โดยทั่วไปแล้วในการศึกษาในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็จะมีสายที่ชัดเจนจริงๆเพียง โปรแกรมเมอ กับ มือกราฟิกเท่านั้นนะครับ แม้ว่าวิชาออกแบบก็พอจะมีบ้างแต่หลักๆก็ต้องสร้างเกมออกมาให้เล่นได้อยู่ดีถึงจะผ่านและจบ จะเล่าให้ฟังสมัยที่ผมเรียนอยู่ เพื่อนๆส่วนใหญ่ ไม่กราฟิกก็ต้องโปรแกรม ถึงจะพอรวมกันเป็นทีมทำเกมส่งอาจารย์ได้บ้าง ส่วนนักออกแบบตอนนี้เหมือนจะเป็นส่วนเกิน มีค่อนข้างเยอะซะด้วยนักออกแบบ เพราะถ้าไม่ทำสองอย่างนั้นก็เหมือนโดนมัดมือชกให้เป็นนักออกแบบซะเลย แต่ไม่ค่อยมีใครอยากได้นักออกแบบแล้วนาทีนี้ เพราะว่าขอเกมเล่นได้ก่อนแบบว่าเอาโมเดลไปหมุนในฉากให้อาจารย์ให้คะแนนได้ก่อนเถอะ เกมสนุกไม่สนุกไม่ใช่ประเด็นแล้ว -*- แต่แท้จริงแล้ว นักออกแบบนี่แหละคือหัวใจของเกมเลยละครับ การออกแบบที่ดีหรือไม่ดีมีผลอย่างยิ่งกับทุกๆสิ่งในเกม ซึ่งหลักสูตรในไทยก็ยังใหม่อยู่เช่นกันครับก็ทดลองกันไปทีละรุ่นๆ แต่ผู้ที่เข้าไปเรียนแล้วก็ย่อมได้อะไรดีๆออกมาแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง"โอกาส" เพราะอย่างน้อยๆดีกว่าไปนั้งทนเรียนอะไรที่เราไม่ชอบ 4ปีเชียวนะ ถ้าค้นพบตัวเองแล้วก็จัดเต็มไปเลยไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าได้ทำอะไรที่เรารักและเราชอบจริงๆมันก็ย่อมมีหนทางดิ่นรนกันจนได้ ตัวผมเองสนใจทำเกมมาตั้งแต่ ม.3 ตอนนั้นหัดทำ Flash แค่ทำให้ของเคลื่อนที่ตามคีย์บอร์ดได้ก็ดีใจมากแล้ว จากนั้นก็ศึกษาจากหนังสือจากซอสไฟลที่เขาแถมมาไปเรื่อยๆจนค่อยๆทำอะไรได้มากขึ้น ตอนนั้นบ้านไม่มีอินเตอเนตอยู่ในป่าลึกมากครับ จน ม. 5 ทำเกมส่งเข้าประกวดโครงการ GameDD ที่ม.รังสิตชนะเลิศเลยได้ทุนเรียนฟรีด้าน IT สาขาเกมที่นั่น มันเป็นโอกาสที่ดีมากเลยครับ ผมอยากย้ำคำว่าโอกาสเพราะผมเชื่อว่าความรู้ความเชียวชาญจริงๆไม่ได้อยู่ที่มหาลัยที่เราเรียนหรืออาจารย์ที่สอนเราเพราะสิ่งเหล่านั้นให้เราได้เพียงโอกาสในการเรียนรู้ แต่หลักๆคือการที่เรารักในที่สิ่งเราทำและมันจะทำให้เรากระตือรือล้นที่จะศึกษาค้นคว้าจากทุกๆที่จนทำให้เราเชียวชาญโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ผมเห็นเด็กรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่ทำสิ่งน่ามหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นแล้วเวลานี้ ผมก็เชื่อว่าคงมาจากเหตุผลเดียวกันคือความชอบแบบเป็นชีวิตจิตใจไม่ว่าอยู่ที่ไหนเราก็ทำได้ถ้าใจรักซะอย่าง
ก็อบมาจากเว็บของเพื่อนนะครับ อ่านดูขำๆ 555+ บางคนมันจะขำออกกันมั้ยเนี่ย
Credit : http://www.hardworkerstudio.com